เศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน ทำให้ผู้คนระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินมากขึ้น ต่างก็รัดเข็มขัดเพื่อเป็นการเซฟให้ได้มากที่สุด ส่งผลกระทบต่อยอดขายในทุกธุรกิจ ทำให้เจ้าของธุรกิจ และผู้ประกอบการ จะต้องงัดเอากลยุทธ์ต่าง ๆ นำมาใช้ ช่วยพยุงให้ธุรกิจยังคงไปต่อได้ โดยไม่ต้องพับกิจการ หรือถึงขั้นล้มแบบจมดิน
เรามีเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มยอดขาย ด้วยการต่อยอดจากฐานลูกค้าเก่า หรือลูกค้าเดิมที่เคยได้ใช้สินค้าหรือบริการของเรานี่แหล่ะ ช่วยเพิ่มยอดขาย และอาจจะได้ลูกค้าใหม่ จากลูกค้าเดิมที่เรามี เพราะถึงแม้ว่ากลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าใหม่ จะเป็นการสร้างความเติบโตในทางกว้าง แต่การรักษาฐานลูกค้าเก่า เป็นกลยุทธ์ในการสร้างความมั่นคงในเชิงลึก เป็นสิ่งที่เจ้าของกิจการ หรือผู้บริหารควรจัดน้ำหนักให้สมดุล เพราะมีสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมเป็นอย่างยิ่งว่า การจะได้ลูกค้าใหม่นั้น จะต้องใช้การทุ่มทุน การโฆษณา การให้ข้อมูลต่าง ๆ และใช้ระยะเวลากว่าที่ลูกค้าจะเปิดใจ และยอมทดลองสินค้าหรือบริการของเรา ทำให้ต้นทุนในการคว้าลูกค้าใหม่นั้นสูงกว่าการรักษาลูกค้าเก่า ผู้ที่เคยได้สัมผัสกับสินค้าของเรามาแล้ว
เทคนิคหรือกลยุทธ์ที่เรานำมาฝากต้องทำอย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่า
- สร้างความประทับใจ หมั่นสังเกตในข้อมูลของลูกค้า สิ่งที่ลูกค้ามักจะซื้อซ้ำ หรือความพึงพอใจในบริการ เพื่อเป็นข้อมูลในการเสนอสินค้าและบริการในครั้งต่อไป ทั้งในสินค้าเดิม หรือผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่มีความใกล้เคียง หรือน่าจะเป็นแนวทางที่ลูกค้าชื่นชอบ เพิ่มความประทับใจให้กับลูกค้า ที่เรามีความใส่ใจและสังเกต
- สิทธิพิเศษ การมอบสิทธิพิเศษ ทั้งสินค้าใหม่ที่ได้ลองก่อนคนอื่น กิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่วนลดของสมาชิก สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่จะสร้างความประทับใจ เพราะรู้สึกถึงการได้รับความเป็นพิเศษ และหากเป็นสินค้าใหม่ที่ต้องการจะทดสอบการตลาด กลุ่มลูกค้าเดิมเหล่านี้แหล่ะ ที่จะให้ข้อมูลได้อย่างตรงประเด็น และเป็นจริงในการตอบโจทย์ผู้ใช้ที่สุด เพราะพวกเขาจะเป็นหนึ่งในลูกค้า ที่เป็นคนใช้จริง และถ้าสินค้าถูกใจ หรือสินค้าถูกนำไปพัฒนา ปรับปรุง จากความคิดเห็นของกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ แน่นอน ยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าใหม่จากพวกเขาได้ด้วย
- จัดเซ็ตสินค้า หรือแพ็คขายคู่ ลองตรวจสอบสินค้าที่มีอยู่ ว่ามีรายการไหนที่สามารถนำมาจัดโปรโมชัน จับแพ็คขายคู่ หรือจัดเป็นเซ็ต ขายยกชุดให้ดูว่าซื้อได้คุ้มกว่า การแยกซื้อเดี่ยว ๆ โดยอาจดูจากรายการสินค้าที่ได้รับความนิยม เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า ลูกค้ามักจะซื้อพร้อมกัน หรือซื้อในเวลาใกล้เคียงกัน เป็นโอกาสที่จะเพิ่มยอดขาย จากลูกค้าเก่าได้มากขึ้น เช่น การจัดเซ็ตผ้าเช็ดผมและผ้าเช็ดตัว หรือ การจัดมื้อเบา ๆ ยามบ่ายอย่าง กาแฟ + เค้ก เป็นต้น
- ขยายฐานลูกค้าใหม่ จากฐานลูกค้าเก่า เป็นแบบ Member get Member คือการให้ลูกค้าเก่า เป็นกระบอกเสียงในการเพิ่มลูกค้าใหม่ จากประสบการณ์โดยตรง ที่ลูกค้าเก่าได้สัมผัสด้วยตัวเอง แล้วนำไปแชร์หรือบอกเล่าให้กับคนรอบข้าง ทำให้เราไม่ต้องโฆษณาเอง ไม่ต้องใช้ทุนใด ๆ แต่สามารถเพิ่มลูกค้าใหม่ได้ เพราะคนส่วนใหญ่ มักจะเปิดใจกับสิ่งใหม่ ๆ จากการบอกเล่า หรือการชักชวนของคนใกล้ตัว และคนที่เป็นผู้บริโภคด้วยกัน มากกว่าผู้เป็นเจ้าของแบรนด์โดยตรง
- การติดต่อสื่อสาร ต้องยอมรับการสื่อสารนั้นเป็นอีกหัวใจสำคัญจริงๆ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัล สื่อโซเชียล สังเกตได้จากที่มักจะมีหัวข้อการคอมเพลน ติดต่อเจ้าหน้าที่ไม่ค่อยได้ แชทถามสินค้าแล้วไม่ตอบ หรือตอบช้า ทำให้เสียลูกค้าเสียความรู้สึก และเปลี่ยนใจไปหาสินค้าตัวอื่นแทน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่ การเข้าถึงของการติดต่อสื่อสาร ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจ เป็นสิ่งที่มัดใจได้อย่างแรก เพราะเป็นการบ่งบอกถึงความใส่ใจ ยินดีในการให้บริการ และจริงใจในการให้ข้อมูล พร้อมทั้งช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เมื่อลูกค้ามีปัญหาเกี่ยวกับสินค้า รวมไปถึงการรับฟังคำติ-ชม แล้วนำไปแก้ไข หรือพัฒนา จะยิ่งทำให้ลูกค้าประทับใจ และผูกใจไว้ไม่หนีไปหาสินค้าแบรนด์อื่น
- อัพเดทและโปรโมทข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งเป็นลูกค้าเก่า ยิ่งควรได้รับข่าวสารอัพเดทในตัวสินค้าหรือบริการก่อนลูกค้าทั่วไป เพราะทำให้พวกเขาได้รู้สึกเป็นคนพิเศษ ช่วยเพิ่มช่องทางของยอดขาย โดยเฉพาะการนำเสนอผลิตภัณฑ์ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด แบบ Personalized Marketing
เทคนิคทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มยอดขาย และประคองให้แบรนด์สามารถก้าวต่อไปได้อย่างยั่งยืน และเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ด้วยระบบปากต่อปาก ความเชื่อใจต่อความเชื่อใจ ดังนั้น กลยุทธ์ในการดูแลและรักษาลูกค้าเก่าไว้ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทุกธุรกิจพึงทำอย่างยิ่ง