เชื่อไหมว่า อีกสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดมลพิษสิ่งแวดล้อมและสภาวะโลกร้อน คือ เศษอาหารทั้งของคาว ของหวานที่เรากินเหลือทิ้ง!
ปัญหาขยะเศษอาหาร กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก แต่ยังคงมีคนจำนวนอีกไม่น้อยเลยที่ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร เพราะที่จริงแล้ว ต้นเหตุของขยะอาหารล้นโลก ก็มาจากพวกเราทุกคน
ในประเทศไทยเองก็กำลังประสบกับปัญหาขยะล้นเมือง โดยเฉพาะขยะเศษอาหารที่มีต้นทางจากที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบ รวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร และ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งวิธีการทำลายขยะเศษอาหารทั่วไปส่วนใหญ่จะใช้วิธีฝังกลบ เมื่อขยะเหล่านี้ถูกส่งไปยังปลายทาง บ่อขยะ ที่ถ้านำมากองรวมกันก็จะสูงเทียบเท่าภูเขาขนาดย่อมได้หลายลูกเลยทีเดียว เป็นที่บ่มเพาะและสะสมเชื้อโรคอย่างดี อีกทั้งยังเป็นแหล่งอาหารของสัตว์พาหะนำโรค อย่าง นก หนู แมลงสาบ ที่นำพาเชื้อโรคไปแพร่กระจายสู่แหล่งน้ำดื่ม ฟาร์มการเกษตร และแหล่งที่อยู่อาศัยของมนุษย์ และที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้นก็คือ มลพิษทางกลิ่น และมลภาวะทางอากาศ อย่าง ภาวะโลกร้อน!!
จากรายงานของสำนักจัดการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ พบว่าปริมาณขยะรวมกันทั้งประเทศ ในแต่ละปีมีขยะอาหารเกิดขึ้นหลายล้านตัน ที่มีค่าเฉลี่ยเป็นปริมาณขยะ 1.14 กิโลกรัม / วัน ซึ่งมีขยะจำนวนไม่มากที่ถูกนำไปหมุนเวียนใช้ใหม่ ส่วนขยะที่เหลือคือ ขยะอาหาร (Food Waste) หรือขยะอินทรีย์ ที่สามารถย่อยสลายได้ คิดเป็นร้อยละ 64 และมักจะปะปนกับขยะประเภทอื่น เนื่องจากขาดประสิทธิภาพในมาตรการแยกขยะ จนต้องปล่อยให้ขยะอินทรีย์เหล่านั้นทำการย่อยสลายเองตามธรรมชาติ ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่า กระบวนการย่อยสลายของอินทรีย์จะปล่อยก๊าซมีเทน หนึ่งในก๊าซเรือนกระจก ที่เป็นสาเหตุทำให้โลกร้อนขี้นอย่างรวดเร็ว และสภาพภูมิอากาศทั่วโลกแปรปรวนอย่างเลวร้าย จนอาจทำให้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในโลกไม่ได้ในอนาคตอันใกล้นี้
มีบางประเทศก็แก้ปัญหาด้วยการใช้เครื่องบดอัดและฆ่าเชื้อ ซึ่งมันก็ไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุดในการวิกฤติขยะจากเศษอาหารล้นเมือง ทำให้หลายประเทศต้องมีมาตรการจัดการปัญหาขยะอาหารอย่างจริงจัง โดยเริ่มต้นในแต่ละบ้าน ไปสู่ร้านอาหาร แหล่งชุมชน และหน่วยงานที่มีหน้ารับผิดชอบจัดการขยะ นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานอื่นๆ ได้ทำการคิดค้นและนำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาประยุกต์และปรับใช้ในการลดขยะอาหารตั้งแต่ในบ้าน อย่างถังกำจัดเศษอาหารในบ้าน หรือ เครื่องกำจัดเศษอาหาร d i y ซึ่งมีหลายประเภทและรูปแบบต่างๆ ให้เลือก เพื่อให้ตรงจุดประสงค์และลักษณะการใช้งานให้มากที่สุด
เครื่องกำจัดเศษอาหาร คืออะไร ?
เครื่องกําจัดเศษอาหาร คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการคิดค้นและถูกออกแบบมา สำหรับกำจัดและย่อยสลายขยะจากเศษอาหารในบ้านได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้บ้านสะอาด ไร้กลิ่นเหม็นเน่า ปราศจากสัตว์พานะนำโรคอย่าง แมลงสาบ หนู และมด มากวนใจ โดยหลักการทำงานของเครื่องกำจัดเศษอาหาร ก็จะมีตั้งแต่ประเภทที่ติดตั้งไว้ใต้ซิงค์อ่างล้างจาน ที่เมื่อเปิดสวิทช์ใช้งาน เครื่องจะทำการบดย่อยเศษอาหารให้แหลกละเอียด แล้วสลายลงไปกับน้ำผ่านท่อน้ำทิ้ง เพื่อส่งต่อไปยังถังบำบัดน้ำเสีย แล้วปล่อยให้ย่อยสลายเองตามธรรมชาติ และอีกประเภทคือ เครื่องกำจัดเศษอาหารเปลี่ยนให้เป็นปุ๋ยได้ภายใน 24 ชั่วโมง ที่เพียงแค่เทเศษอาหารลงไป เครื่องก็จะทำงานอัตโนมัติ โดยมีจุลินทรีย์ที่มีชีวิตในเครื่องแปรเปลี่ยนเศษอาหาร ให้นำมากลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกในสภาพของปุ๋ยออแกนิค เป็นการนำกลับมาใช้หมุนเวียน ซึ่งสามารถลดปริมาณขยะลงได้จริง
เครื่องกำจัดเศษอาหารมีประโยชน์อย่างไร ทำไมถึงเรียกว่าเป็นนวัตกรรมรักษ์โลก
เรามาดูหลักการทำงานคร่าวๆ ของเจ้าเครื่องกำจัดเศษอาหารกันสักหน่อยดีกว่า
เครื่องกำจัดเศษอาหารนี้จะทำงานร่วมกันระหว่างจุลินทรีย์ที่มีชีวิต ความร้อนและออกซิเจนในอากาศ ที่เหมาะสม เพื่อให้จุลินทรีย์เจริญเติบโตและขยายแพร่พันธุ์ เพื่อมากัดกินเศษอาหารในเครื่อง เป็นการย่อยสลายเศษอาหาร ถ้าให้เข้าใจง่ายขึ้น คือ จุลินทรีย์กินเศษอาหารและอาศัยออกซิเจนและความร้อน เพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ แล้วมากัดกินเศษอาหาร ขยายพันธุ์ หมุนเวียนเป็นวงกลมอย่างนี้ไม่สิ้นสุด ทำให้ไม่ต้องคอยเติมหัวเชื้อจุลินทรีย์อีก เรียกได้ว่าเป็นการกำจัดขยะเศษอาหารแบบ Circular Living อย่างแท้จริง
การใช้งานก็ง่ายมาก ทางบริษัทผู้ผลิตจะมีคู่มือให้มาพร้อมกับเครื่อง เมื่อจะใช้งานเครื่องกำจัดเศษอาหารครั้งแรก ก็แค่เสียบปลั๊กและเติมหัวเชื้อจุลินทรีย์ลงไป แล้วปล่อยทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่กำกับไว้ในคู่มือ เพื่อให้จุลินทรีย์และเครื่องพร้อมในการทำงาน เหมือนกับการชาร์จแบตก่อนใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป เมื่อครบตามเวลา ก็สามารถใช้งานเครื่องได้เลย แต่จะต้องเสียบปลั๊กไว้ตลอดเวลาเหมือนตู้เย็น เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสมต่อจุลินทรีย์ เมื่อมีเศษอาหาร เพียงแยกน้ำออกจากเศษอาหารเสียก่อน อาจมีน้ำหลงเหลือได้บ้างเล็กน้อย (ควรศึกษาคู่มือประเภทอาหารที่ใส่ได้และไม่ควรใส่ลงเครื่อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง) เปิดฝาเครื่อง เทเศษอาหารลงไป แล้วปิดฝาให้สนิท ปล่อยให้เครื่องทำงาน ไม่ต้องเฝ้าหรือทำอะไรเพิ่ม เดินตัวปลิวไปชิลล์ที่อื่นได้เลย ภายใน 24 ชั่วโมง ก็จะมีปุ๋ยหมักพร้อมสารอาหารครบถ้วนที่พืชต้องการพร้อมเสิร์ฟ ตักไปใช้งานได้เลย แถมปุ๋ยที่ได้ก็ไร้กลิ่น มีลักษณะคล้ายดินปลูกต้นไม้ทั่วไป สะอาด จับได้ด้วยมือเปล่า สะดวก สบาย ขยะเศษอาหารหายไป ได้ปุ๋ยออแกนิคพร้อมใช้กลับมา
ประโยชน์ของเครื่องกำจัดเศษอาหาร
- ลดปริมาณขยะได้ถึง 95% ของปริมาณขยะทั้งหมด
- ลดการใช้ถุงขยะพลาสติก
- ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อถุง และค่าบริการเก็บขยะสาธารณะ
- ลดปัญหามลพิษทางกลิ่น
- ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดมลภาวะทางอากาศ
- จบปัญหามด แมลง หนู กวนใจ
- ได้ปุ๋ยหมักฟรี ผักปลอดสารพิษ สุขภาพแข็งแรง
- สามารถคัดแยกขยะไปรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น
- ประหยัดงบประมาณของประเทศ นำไปใช้บริหารในด้านอื่นแทน
- ประหยัดเวลา ไม่วุ่นวาย ไม่เยอะขั้นตอน
- สิ่งแวดล้อมดีขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น
ปัจจุบันมีหลายบริษัท รวมไปถึงโรงงานหลายแห่งได้ผลิตเครื่องกำจัดเศษอาหารออกมาจำหน่ายมากขึ้นในท้องตลาด มีหลายแบรนด์ และหลากหลายเรทราคา โดยส่วนใหญ่เครื่องกำจัดเศษอาหารราคาจะเฉลี่ยๆ ไม่ห่างกันมากนัก ที่มีขนาดเดียวกันและฟังก์ชั่นใกล้เคียงกัน แต่ต้องยอมรับว่า ราคาเครื่องกำจัดเศษอาหารก็ไม่ใช่น้อยอยู่นะ จึงต้องพิจารณาให้ดีๆ ก่อนจะตัดสินใจซื้อเครื่องกำจัดเศษอาหารยี่ห้อไหนดี
วิธีการเลือกเครื่องกำจัดขยะเศษอาหาร
1. ขนาด
เครื่องกำจัดขยะเศษอาหารขนาดใหญ่-เล็ก ของแต่ละรุ่นและแต่ละแบรนด์จะแตกต่างกันออกไป ซึ่งก่อนจะซื้อจะต้องตรวจสอบให้ดี ว่าเครื่องมีขนาดที่เหมาะสมกับสถานที่ตั้งหรือไม่ หากซื้อเครื่องกำจัดขยะขนาดใหญ่เกินไป อาจมีปัญหาเรื่องพื้นที่ติดตั้งได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีพื้นที่จำกัด อย่างอาศัยอยู่ในคอนโดหรือห้องเช่า หรือถ้าเป็นร้านอาหารที่ต้องมีการปรุงอาหารแทบตลอดเวลา แต่เลือกซื้อเครื่องกำจัดเศษอาหารขนาดเล็ก อาจมีปัญหาเครื่องไม่สามารถรองรับปริมาณเศษอาหารได้เพียงพอ ดังนั้นควรเช็คขนาดของตัวเครื่อง บริเวณพื้นที่ในการติดตั้ง และปริมาณรองรับการใช้งานจริง
2. ใช้งานง่ายและมีคุณภาพสูง
เครื่องกำจัดเศษอาหารที่มีคุณภาพดี จะต้องมีมาตรฐานดี ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องก็จะดีแน่นอน ทำงานแบบไม่งอแง ทำงานได้เยี่ยม มีความแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน ไม่เสียไม่พังบ่อย กล่าวได้ว่าใช้งานได้อย่างคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
3. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสมาชิกในบ้าน
แน่นอนว่าเราต้องการเปลี่ยนขยะเศษอาหารให้เป็นปุ๋ย ดังนั้น ระหว่างที่เครื่องทำงาน กระบวนการย่อยสลายเศษอาหาร จะต้องไม่มีการปล่อยก๊าซมีเทน หรือก๊าซพิษอันตราย ที่ส่งผลต่อสมาชิกในบ้านและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งปุ๋ยที่ได้จะต้องเป็นปุ๋ยออแกนิคไร้สารพิษ พืชผักที่บำรุงด้วยปุ๋ยเหล่านั้นจะต้องปลอดภัยและออแกนิค 100% จึงจะถือว่าเป็นนวัตกรรมรักษ์โลกอย่างแท้จริง
4. ประหยัดพลังงานไฟฟ้า
เพราะในแต่ละวันเรากินอาหารกันหลายมื้อ ยิ่งมีสมาชิกหลายคน ก็ยิ่งต้องใช้งานเครื่องกำจัดเศษอาหารบ่อยแน่ๆ และการทำงานของเครื่องในการแปรสภาพเศษอาหารทั้งหมดให้เป็นปุ๋ยนั้นจะต้องใช้เวลาประมาณ 18 – 24 ชั่วโมง อีกทั้งต้องเสียบปลั๊กไฟตลอดเวลา เพื่อรักษาจุลินทรีย์ไว้ในเครื่อง ดังนั้นจะต้องเป็นระบบที่มีคุณสมบัติประหยัดพลังงาน
หากใครที่สนใจต้องการศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม หรือต้องการจะก้าวสู่การรักษ์โลกอย่างแท้จริง สามารถติดต่อได้ที่ Hass Thailand เครื่องกำจัดเศษอาหาร จะมีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้รายละเอียดและคำตอบสำหรับทุกคำถามเกี่ยวกับเครื่องกำจัดเศษอาหารอย่างแน่นอน
ในเมื่อเรื่องเล็กๆ ในจานข้าวที่กลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกนั้นเกิดมาจากพวกเราทุกคน ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้พอดี ตักอาหารแต่พออิ่ม ส่วนกรณีที่เหลือเศษอาหารจริงๆ ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ เครื่องกำจัดเศษอาหาร นวัตกรรมรักษ์โลก
