หลาย ๆ บ้านมักจะมีเครื่องซักผ้าไว้อำนวยความสะดวกในการทำความสะอาดเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และอุปกรณ์ผ้าต่าง ๆ ของสมาชิกภายในบ้าน แต่เมื่อเครื่องซักผ้ามีการใช้งานไปนาน ๆ ย่อมมีสิ่งสกปรกตกค้างในตัวเครื่อง รวมไปถึงกลิ่นอับต่าง ๆ ภายในเครื่องที่อาจติดไปกับเสื้อผ้าเมื่อ อีกทั้งสิ่งสกปรกที่ตกค้างก็อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ผิวหนังด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรล้างทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคและสิ่งสกปรก จนนำไปสู่โรคภูมิแพ้และอื่น ๆ ตามมาได้ ซึ่งวันนี้แอดมินได้นำวิธีล้างเครื่องซักผ้าด้วยของใช้ในบ้านมาฝากเพื่อน ๆ ที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมเพจของเรา ได้นำไปลองปรับใช้ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าที่บ้าน ด้วยสิ่งของใกล้ตัวที่อาจนึกไม่ถึง ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า และเครื่องซักผ้าฝาบนเลยเชียวล่ะ
1. น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชู สารพัดประโยชน์ที่ควรมีติดบ้านจริง ๆ เพราะใช้ปรุงอาหาร ล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้หลายอย่าง และยังนำไปล้างเครื่องซักผ้าให้สะอาด ปราศจากกลิ่นอับได้อีก โดยวิธีทำ คือ เปิดโปรแกรมซักผ้าน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส จากนั้นเทน้ำส้มสายชูประมาณ 200 – 230 มิลลิลิตร ลงในช่องใส่ผงซักฟอก เปิดเครื่องปั่นทิ้งไว้ประมาณ 3 – 5 นาที เพื่อให้น้ำส้มสายชูละลายไปกับน้ำ แล้วปล่อยแช่ทิ้งไว้อีกประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำส้มสายชูฆ่าเชื้อแบคทีเรียในเครื่องซักผ้า เมื่อครบเวลาแล้วจึงกดให้เครื่องทำงานปกติ ก่อนจะกดล้างเครื่องด้วยน้ำเปล่าอีก 1 – 2 ครั้ง เพื่อกำจัดกลิ่นน้ำส้มสายชู เพียงเท่านี้ เครื่องซักผ้าก็จะสะอาด ไร้กลิ่นอับและเชื้อแบคทีเรีย
2. เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดา นอกจากจะเป็นส่วนผสมในการทำอาหารและขนมต่าง ๆ แล้ว เบกกิ้งโซดามีประโยชน์อีกหลายด้าน รวมถึงการนำเบกกิ้งโซดาใช้ล้างเครื่องซักผ้า โดยเริ่มจากใส่เบกกิ้งโซดาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะลงในช่องใส่ผงซักฟอก แล้วเลือกกดโปรแกรมซักน้ำร้อนด้วยระดับน้ำสูงสุด และกดปั่นถังซัก เพื่อให้เบกกิ้งโซดาละลายกับน้ำ แล้วแช่ทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดระบบน้ำล้างเครื่องซักผ้าอีก 1 – 2 ครั้ง เพียงเท่านี้ เครื่องซักผ้าก็จะไร้กลิ่นอับ พร้อมซักผ้าต่อได้เลย
3. น้ำส้มสายชู + เบกกิ้งโซดา
การล้างเครื่องซักผ้าด้วยวิธีนี้ ใช้การผสมระหว่าง น้ำส้มสายชูในข้อที่ 1 กับเบกกิ้งโซดาในข้อที่ 2 โดยเริ่มจากผสมเบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะกับน้ำเปล่า 1 – 2 ช้อนชา เข้าด้วยกัน แล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน ให้มีลักษณะข้น ๆ เหนียว ๆ จากนั้นนำไปใส่ลงในช่องผงซักฟอก ตามด้วยเทน้ำส้มสายชู ประมาณ 250 มิลลิลิตรลงไป แล้วตั้งค่าซักน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส พร้อมกับกดให้เครื่องทำงานตามปกติ วิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดเครื่องซักผ้าให้สะอาด และขจัดกลิ่นเหม็นอับได้อีกด้วย
4. สารฟอกขาว หรือน้ำยาฟอกขาว
สำหรับเครื่องซักผ้าที่มีคราบฝังแน่น ใช้อะไรก็ไม่ค่อยได้ผล ต้องลองใช้สารฟอกขาวหรือน้ำยาฟอกขาวทำความสะอาด เพราะจะช่วยกำจัดคราบฝังลึก สิ่งสกปรกตกค้างสะสม ฝังแน่นเป็นคราบตามจุดต่าง ๆ ภายในเครื่อง หรือใครที่ต้องการกำจัดเชื้อแบคทีเรียเป็นพิเศษ การใช้สารฟอกขาวก็นับว่าเหมาะอย่างยิ่ง โดยเติมสารฟอกขาวประมาณ 30 มิลลิลิตร ลงในช่องใส่ผงซักฟอก จากนั้นเปิดโปรแกรมซักน้ำร้อน แล้วปั่นให้สารฟอกขาวละลายน้ำ และแช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะเปิดระบบซักตามปกติ และเพิ่มแารล้างพิเศษอีก 1 ครั้ง เพื่อให้ช่วยกำจัดคราบสารฟอกขาว และคราบสิ่งสกปรกภายในถังออกไปให้หมด หากพบว่ายังมีกลิ่นอับในเครื่องซักผ้า ให้เปิดน้ำล้างเครื่องเปล่าอีกครั้ง จากนั้นเช็ดด้านในของฝา และเปิดฝาทิ้งไว้เพื่อให้ภายในถังซักแห้ง
5. กรดมะนาวและวิตามินซี
สำหรับใครที่มีผงวิตามินซี โดยเฉพาะสาว ๆ ที่รักการดูแลบำรุงผิวหน้า แอดมินขอแนะนำอีกวิธี การใช้ผงวิตามินซีและกรดมะนาว เหมาะมาก ๆ กับการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าที่มีคราบฝังแน่น ซึ่งขั้นตอนการล้างเครื่องซักผ้าไม่ได้ยุ่งยากเลย เพียงต้มน้ำเปล่าให้เดือด จากนั้นปิดแก๊ส แล้วเติมผงวิตามินซีประมาณ 200 กรัม กับกรดมะนาว หรือกรดซิตริก ประมาณ 100 กรัม ลงไปในน้ำต้ม แล้วคนให้ละลาย แล้วนำไปเทลงในถังซักผ้าจนเกือบหมด เหลือไว้เล็กน้อยเพื่อนำไปเทใส่ลงในช่องใส่ผงซักฟอก แล้วเปิดโปรแกรมซักน้ำร้อน กรดมะนาวและวิตามินซีจะทำหน้าที่ช่วยกำจัดคราบสนิม คราบหินปูน และคราบสกปรกต่าง ๆ ภายในถังซักผ้าได้สะอาด