African-American broker works in office using workstation and analysis technology.

หุ้น RMF และ SSF คืออะไร ควรลงทุนไหม? ตัวไหนน่าลงทุนกว่ากัน?

หลายคนอาจยังสับสนว่าทั้งสองอย่างนี้คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกลงทุนตัวไหนดี วันนี้เราจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ

สำหรับใครที่เริ่มสนใจเรื่องการลงทุนเพื่ออนาคต หรือกำลังมองหาวิธีลดหย่อนภาษี “RMF” และ “SSF” เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก แต่หลายคนอาจยังสับสนว่าทั้งสองอย่างนี้คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกลงทุนตัวไหนดี วันนี้เราจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ พร้อมคำแนะนำในการเลือกลงทุน

RMF คืออะไร?

RMF (Retirement Mutual Fund) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนที่ออกแบบมาเพื่อการออมเงินระยะยาวโดยเฉพาะ จุดประสงค์หลักคือ เก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ
คุณสมบัติสำคัญของ RMF ได้แก่:

  • ต้องซื้ออย่างสม่ำเสมอทุกปี (อย่างน้อยปีเว้นปี)
  • ต้องถือครองจนถึงอายุ 55 ปี ขึ้นไป และลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี (นับตามปีปฏิทิน)
  • สามารถเลือกลงทุนได้หลายสินทรัพย์ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หรือสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ
  • เงินที่ลงทุนสามารถนำไป ลดหย่อนภาษี ได้ ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท และเมื่อรวมกับการออมเพื่อเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

สรุป: เหมาะสำหรับคนที่ต้องการวางแผนเกษียณล่วงหน้า และตั้งใจลงทุนระยะยาวจริงๆ

SSF คืออะไร?

SSF (Super Savings Fund) หรือกองทุนรวมเพื่อการออมระยะยาว เป็นกองทุนที่ออกมาแทน LTF เดิม (ที่หมดอายุสิทธิ์ไปแล้ว)
คุณสมบัติสำคัญของ SSF ได้แก่:

สรุป: เหมาะสำหรับคนที่อยากลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะกลางถึงยาว และใช้สิทธิลดหย่อนภาษีโดยไม่ต้องผูกมัดเรื่องอายุเกษียณ

RMF กับ SSF ต่างกันยังไง?

หัวข้อ RMF SSF
วัตถุประสงค์ ออมเงินเพื่อเกษียณ ออมเงินระยะยาวเพื่อผลตอบแทน
อายุขั้นต่ำในการขายคืน 55 ปีขึ้นไป + ลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี ถือครอง 10 ปีเต็ม (นับวัน)
ข้อบังคับการซื้อ ต้องซื้อทุกปี (อย่างน้อยปีเว้นปี) ไม่ต้องซื้อทุกปี
วงเงินลดหย่อนภาษี รวมกับกองทุนอื่น เช่น กองทุนบำนาญ แยกวงเงิน ไม่รวมกับ RMF
ความยืดหยุ่น น้อยกว่า มากกว่า

แล้วควรลงทุนตัวไหนดี?

1. ถ้าอยากเน้นออมเพื่อเกษียณโดยเฉพาะ ➔ เลือก RMF
เหมาะกับคนที่วางแผนเรื่องการเกษียณชัดเจน มีวินัยในการลงทุน และตั้งใจถือยาวถึงอายุ 55 ปีขึ้นไป

2. ถ้าอยากลงทุนระยะยาว มีความยืดหยุ่นสูง ➔ เลือก SSF
เหมาะกับคนที่อยากได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นหรือตราสารอื่นๆ ระยะยาว โดยไม่ต้องรอจนเกษียณ และไม่ต้องซื้อทุกปี

3. ถ้ามีฐานรายได้สูง ➔ ลงทุนทั้งสองตัว
หากคุณมีรายได้เยอะ และอยากใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเต็มที่ การแบ่งลงทุนทั้ง RMF และ SSF จะช่วยประหยัดภาษีได้มากขึ้น

สรุป

  • RMF = ลงทุนเพื่อเกษียณ จำเป็นต้องถือจนถึง 55 ปี
  • SSF = ลงทุนระยะยาว 10 ปี ถือจบเมื่อไรก็ขายได้
  • ถ้าวางแผนเกษียณ ➔ RMF น่าสนใจ
  • ถ้าอยากลงทุนลดหย่อนภาษีแบบยืดหยุ่น ➔ SSF น่าสนใจ

สุดท้าย สิ่งสำคัญกว่าคือการ เลือกกองทุนที่มีคุณภาพ และ เหมาะกับสไตล์การลงทุน ของตัวคุณเอง เช่น คนรับความเสี่ยงได้สูงอาจเลือกกองทุนหุ้นไทยหรือหุ้นต่างประเทศ แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้น้อย อาจเลือกกองทุนตราสารหนี้หรือผสมผสานหลายสินทรัพย์เพื่อกระจายความเสี่ยง